บัณฑิตสามเณร
บัณฑิตสามเณร อันนี้เป็นศิษย์พระสารีบุตร เป็นสามเณรองค์เล็กๆ ท่านอายุราว ๗ ปี เมื่อบวชแล้วก็ไปบิณฑบาตกับอาจารย์พระสารีบุตร เมื่อเดินตามหลังอาจารย์ไป ก็มีสิ่งแปลกๆ ที่เกิดขึ้นให้เห็น ไปเห็นเขาเอาน้ำเข้านา ก็ถามอาจารย์ว่า “นี่อาจารย์ น้ำทำไมมันไปได้อย่างนี้ มีหัวใจไหม” “ไม่มี” บอกว่า “มันไปได้เพราะเขาเอาที่สูงมาจากที่ต่ำ” ก็เลยเข้าใจ “เออ…
นางขุชชุตตรา
เรื่องประวัติของนางขุชชุตตรา ที่เป็นนางสนมของพระนางสามาวดี เป็นผู้รับใช้ที่พระนางสามาวดีไว้ใจเป็นพิเศษ และเป็นหัวหน้าแก่นางสนมอื่นๆ อีกห้าร้อยคน นางขุชชุตตรา ไม่เคยฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าเลย พระนางสามาวดีให้ไปซื้อดอกไม้มาประดับในพระราชวังทุกวัน และให้เงินไปครั้งละ ๘ กหาปณะ ในเช้าวันหนึ่ง นายมาลาการได้นิมนต์พระพุทธเจ้าพร้อมทั้งพระสาวกมาฉันอาหารที่บ้าน ได้เก็บดอกไม้ทั้งหลายมาประดับปะรำพิธี ไม่มีเวลาที่จะไปเก็บดอกไม้ให้นางขุชชุตตรา แล้วบอกว่าวันนี้เราได้นิมนต์พระพุทธเจ้าและพระสาวกมาฉันที่นี่ เมื่อฉันเสร็จก็จะได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า ให้นางขุชชุตตราคอยก่อน เสร็จแล้วจึงจะไปเก็บดอกไม้ให้ นางขุชชุตตราก็ยินดีที่จะได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า…
อาจารย์ผู้ติดในสมาธิ
เรื่องมีอยู่ว่า พระ ๒ องค์ด้วยกัน องค์หนึ่งเป็นอาจารย์ องค์หนึ่งเป็นลูกศิษย์ องค์อาจารย์เป็นนิสัยเจโตวิมุติ องค์ลูกศิษย์เป็นนิสัยปัญญาวิมุติ แต่ชาติก่อนๆ มาเคยร่วมบารมีกันมา บำเพ็ญด้วยกันมา เคยทรมานกันมา พึ่งพาอาศัยกันมา เมื่อมาเกิดชาตินี้ก็มาบวชร่วมกันเป็นครูอาจารย์เดียวกัน ทีนี้นิสัยเดิมที่มีอยู่ ลูกศิษย์เป็นนิสัยปัญญาวิมุติ ก็ใช้ปัญญาพิจารณา อาศัยปัญญาคู่กับสมาธิตั้งใจมั่น ใช้ปัญญาพิจารณา เดินจงกรมบ้าง…
บุตรนายช่างทอง
เรื่องนิสัยวาสนาที่ได้อบรมมาในชาติก่อน บรรดาพระสาวกทั้งหลายไม่สามารถทราบได้ว่าผู้นั้นเคยสร้างบุญสร้างกุศล สร้างวาสนาบารมีมาอย่างนี้ๆ พระสาวกรู้ไม่ได้ แต่การรู้อย่างนี้เป็นหน้าที่ของพระพุทธเจ้าองค์เดียวเท่านั้นที่บอกได้ว่า ในอดีตชาติเคยทำบุญมาอย่างนั้น สร้างบารมีมาอย่างนี้ ยกตัวอย่าง พระภิกษุหนุ่มลูกศิษย์ของพระสารีบุตร มีความกระสันอยากสึกออกไปเป็นฆราวาส พระสารีบุตรท่านมีความสงสารจึงแสดงธรรมให้ฟังหลายแง่หลายมุม แต่ภิกษุรูปนั้นก็ยังคงอยากสึกอยู่ พระสารีบุตรผู้ซึ่งแตกฉานในปัญญาทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ก็ไม่สามารถนำธรรมะหรือปัญญาไปบังคับลูกศิษย์ให้รู้แจ้งเห็นจริงตามความเป็นจริงได้ พระสารีบุตรจึงนำภิกษุนั้นไปกราบพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ดูก่อนสารีบุตร ไม่มีพระภิกษุรูปใดจะเทศน์สอนได้ มีเพียงตถาคตองค์เดียวเท่านั้นที่เทศน์ได้ถูกจุด” พระพุทธเจ้าจึงให้นิมิตดอกบัวตูม…
โสณภิกษุณี
นางโสณภิกษุณี บวชเมื่อแก่ อายุก็ประมาณเจ็ดสิบปี หรือแปดสิบปี เมื่อบวชมาแล้วได้ไปอยู่ร่วมบ้านกับภิกษุณีอื่นๆ ภิกษุณีสาวๆ เขาก็มีความขยันหมั่นเพียร ทำข้อวัตรปฏิบัติไปเรื่อยๆ มีความรู้ดี เพราะว่าเขาบวชก่อน คนบวชก่อนต้องมีอาวุโสกว่าคนบวชใหม่ ถึงจะอายุน้อยก็ตาม อายุสิบปี ยี่สิบปีก็ตาม เขาถือว่าเป็นผู้อาวุโส ถ้าคนบวชใหม่ อายุห้าสิบปี หกสิบปี แปดสิบปีก็ตาม ถือว่าเป็นคน…
พระโสไรยะ
ในสมัยครั้งพุทธกาล มีพระภิกษุรูปหนึ่งชื่อว่า พระสังกัจจายน์ แต่ก่อนท่านเองมีรูปโฉมสวยงดงาม ไปที่ไหนคนจ้องมองตลอดเวลา ถึงกับว่าเป็นพระพุทธเจ้าบ้าง เป็นอะไรบ้าง ต่างๆ นานา ในวันหนึ่ง มีเศรษฐีคนหนึ่ง มีครอบครัวแล้ว มีลูกอยู่ ๒ คน คนหนึ่งมีชื่อว่า โสไรยเศรษฐี ท่านได้พาบริวารทั้งหลายเดินผ่านมา มาเห็นพระสังกัจจายน์นี้แหละรูปสวยงาม ก็เลยมีความประมาทในส่วนตัวว่า…
นางสุมิตตา
นางสุมิตตา เป็นพระโสดาบันอย่างสมบูรณ์ เป็นผู้หญิงสาวสวยคนหนึ่ง เป็นลูกมหาเศรษฐี แต่เขาก็ยังมีความกระสันดิ้นรนในความรัก ความใคร่ในกามคุณ จนวันหนึ่ง มีหนุ่มคนหนึ่งเป็นนายพรานอยู่ในป่าลึก แต่ละวันๆ เขาจะหาสัตว์ต่างๆ เก้งกวางต่างๆ มาขายในเมือง เอาใส่ล้อใส่เกวียนลากมาขาย แล้วก็ผ่านหน้าบ้านของนางสุมิตตาทุกวันๆ หรือสองวันสามวันมาครั้งหนึ่ง เป็นหนุ่มหน้าตาดีพอสมควร แต่เป็นนายพราน นางสุมิตตาก็ต้องไปซื้ออาหารจากพรานคนนี้ด้วย นานๆ เข้า…
พระโปฐิละ ผู้แบกคัมภีร์เปล่า
พระตุจฉะ พระตุจฉะมีเพื่อนองค์หนึ่งบวชร่วมกันสมัยนั้น เมื่อบวชแล้วก็มาปรึกษากันว่า ยังไงดี องค์หนึ่งชอบศึกษา ได้ข้อมูลพอปฏิบัติได้แล้วก็ออกธุดงค์กรรมฐานตามถ้ำตามเหว อีกองค์หนึ่งคือพระตุจฉะ ซึ่งชอบการศึกษา ท่านเลือกที่จะศึกษาธรรม ธรรมะก็แตกฉานในปฏิภาณโวหารในการศึกษา เป็นธรรมกถึกเอก เทศน์เก่ง งานไหนงานนั้นต้องพระตุจฉะเป็นตัวแสดงธรรม งานต่างๆ ต้องพระตุจฉะแสดงธรรมตลอดเวลา โวหารปฏิภาณ จดจำธรรมะของพระพุทธเจ้าได้แม่นยำและเทศน์เก่งด้วย ต่อมา เพื่อนที่ไปปฏิบัติอยู่ตามป่าเขาก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ แล้วก็คิดว่าจะลงมาเยี่ยมเพื่อนในกรุงสาวัตถี…